หลวงปู่ศุข วัดปากคลองฯ

ในแวดวงพระเครื่องของเกจิอาจารย์ต่าง ๆ ที่โด่งดังมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของผู้คนนั้น แน่นอนว่าต้องมีพระเครื่องของหลวงปู่ศุข เกสโร แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ที่อยู่ในระดับแถวหน้า ทั้งนี้เพราะท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่เชี่ยวชาญทั้งวิปัสสนากรรมฐาน และมีสมาธิจิตที่แก่กล้าด้วยอำนาจแห่งกสิณ ผนวกกับศึกษาวิชาเวทมนต์ต่าง ๆ มาจากหลายอาจารย์ จึงทำให้วัตถุมงคลที่ท่านสร้างและปลุกเสกขึ้นมามีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ต้องการของผู้ที่ศรัทธาทุกทั่วสารทิศ

เมื่อเป็นเช่นนั้นก็เลยทำให้พระเครื่องและเครื่องรางของขลังที่หลวงปู่ศุขทำขึ้นมานั้น กลายเป็นสิ่งที่ผู้คนต่างแสวงหามาเก็บสะสมและบูชากัน เพราะที่ผ่านมามีคำบอกเล่ากันถึงประสบการณ์มากมายทั้งด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี หรือในด้านเมตตามหาเสน่ห์ก็เป็นหนี่งไม่เป็นสองรองใคร ตลอดจนส่งเสริมให้มีโชคลาภและเจริญรุ่งเรือง จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านหายากใครมีมักจะไม่ปล่อย และมีสนนราคาสูง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่กับนักสะสมระดับเศรษฐี

พระหล่อพิมพ์ประภามลฑลมีรัศมี

สำหรับความเป็นมาของหลวงปู่ศุขนั้น เมื่อท่านได้บวชเป็นพระแล้วก็ได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนบังเกิดศรัทธาดื่มด่ำในรสพระธรรม รอบรู้ในพระไตรปิฎก และเชี่ยวชาญทางวิปัสสนากรรมฐาน ด้วยเหตุที่ท่าน เป็นผู้แต่ฉานในภาษา และอักขระเลขยันต์มาก่อน จึงทำให้ท่านก้าวสู่โลกของไสยเวท และคาถาอาคมได้โดยง่ายมี พระอาจารย์เชย ซึ่งแก่กล้าทางพุทธาคม เป็นอาจารย์สอนวิปัสสนากรรมฐาน และการทำสมาธิจิตเพ่งกสิณ

ทั้งนี้เพื่อเป็นพื้นฐานในการศึกษาพระเวทอาคมต่างๆ ซึ่งท่านมีจิตใจที่แน่วแน่ มุ่งปฏิบัติอย่างจริงจัง จนเกิดพลังจิตที่กล้าแข็งเป็นอย่างยิ่ง กสิณที่ฝึกประกอบด้วย อาโปกสิณ เตโชกสิณ วาโยกสิณ ปฐวีกสิณ อันเป็นธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลมและไฟ จนสำเร็จกสิณทั้ง 4 ธาตุ ทำให้สามารถแยกธาตุได้ด้วยความชำนาญ และจากการสำเร็จกสิณดังกล่าวทำให้ท่านสามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินบนผิวน้ำที่อาศัยปฐวีกสิณ หรือมองเห็นแสงสว่างในที่มืดด้วยเตโชกสิณ

พระหล่อพิมพ์ประภามณฑลข้างอุหลังจาร

ในขณะเดียวกันหลวงปู่ศุขยังเป็นพระที่ใฝ่ธุดงค์เป็นนิจ และจากการที่ท่านธุดงค์รอนแรมไปในป่า เป็นเวลานานๆ ก็ทำให้ท่านได้พบ กับพระอาจารย์อีกหลายท่าน ที่หลวงปู่ศุขฝากตัวเป็นศิษย์ เล่าเรียนเวทมนต์คาถาเพิ่มเติม จนกล่าวกันว่าหลวงปู่ศุข คือจ้าวแห่งอาคมตัวจริงและเมื่อกลับสู่บ้านเกิดแล้ว ท่านก็ได้อยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าสืบมา

และจากความเข้มขลังในพระเวทอาคมของหลวงปู่ศุขนั้น กล่าวกันว่าท่านสามารถปฏิบัติเห็นผลจริง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการผูกหุ่นพยนต์ เสกใบมะขามเป็นตัวต่อตัวแตน เสกให้คนเป็นจระเข้ เสกหัวปลีให้เป็นกระต่าย ระเบิดน้ำลงไปนั่งบริกรรม ทำตะกรุดโดยจีวรไม่เปียก ซึ่งล้วนแต่เป็นพระเวทย์ขั้นสูง ที่ไม่อาจพบเห็นได้ทั่วไป จึงไม่ต้องพูดถึงความเข้มขลัง ในระดับพื้นๆ ที่ท่านเจนจบ อยู่ในระดับสุดยอดพระเกจิอาจารย์อันได้แก่ คงกระพันหนังเหนียว มหาอุตม์ เมตตามหาเสน่ห์ แคล้วคลาด โชคลาภ และย่นระยะทางกำบังตัว

พิมพ์ประภามลฑลบัวห้าเม็ดหลังยันต์สี่เนื้อชิน

ทำให้ชื่อเสียงในด้านพุทธาคมของหลวงปู่ศุขมี จึงทำให้ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาเข้ามาฝากตัวด้วยจำนวนมาก ตั้งแต่ระดับชาวบ้าน พระสงฆ์ ไปจนถึงชั้นเจ้านายเชื้อพระวงศ์ก็มี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องกล่าวถึงคือ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย โดยเสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ ได้มาจอดเรือพระที่นั่ง แวะที่ท่าน้ำวัดปากคลองมะขามเฒ่า และได้พบกับหลวงปู่ศุข จึงได้ทดลองวิชา และถวายตัวเป็นศิษย์

ตามประวัติเล่าว่า ในช่วงเดือน 5 ของทุกปีจะทรงเสด็จประพาสตากอากาศ ไปทางเหนือ มีเรือกลไฟฟ้าลากจูงเรือพระที่นั่ง วันหนึ่งไปจอดเทียบท่า วัดปากคลองมะขามเฒ่า พระองค์ก็ได้เจอหลวงปู่ศุข ซึ่งกำลังทดลองวิชาด้วยการเสกหัวปลีให้เป็นกระต่าย วิ่งเพ่นพ่าน ก็ทรงเลื่อมใสศรัทธา และเสด็จไปกราบนมัสการ เมื่อพูดคุยกันแล้วก็ยิ่งประหลาดอัศจรรย์ใจ จึงขอศึกษาวิชาอาคมจากหลวงปู่ศุข

สำหรับวัตถุมงคลที่ท่านได้สร้างและเป็นที่นิยม คือ พระพิมพ์สี่เหลี่ยมประภามณฑล นับเป็นพระพิมพ์ยอดนิยมของท่านพิมพ์หนึ่ง มีแบ่งพิมพ์ย่อยออกไปอีกหลายพิมพ์ ตามลักษณะเด่นที่ปรากฎให้เป็น สร้างจากเนื้อโลหะหลายชนิด ทั้งโลหะผสมประเภททองเหลือง ทองแดง สัมฤทธิ์ ชินเงิน และชินตะกั่ว โดยด้านหลังเรียบ มีทั้งหลังแบบจารอักขระ และไม่จาร รวมถึงบางองค์ บางพิมพ์ ด้านหลังเป็นยันต์นูนก็มี

สำหรับพิมพ์ประภามลฑลรัศมี แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือหล่อเดี่ยวจะเทหล่อแบบโบราณ โดยเทหยอดทีละองค์กับหล่อแบบเป็นแผงแล้วนำมาแบ่งตัดภายหลัง ซึ่งเป็นหล่อโบราณเหมือนกัน ส่วนการพิจารณาพิมพ์ประภามลฑลรัศมีจุดที่หน้าสังเกตูดังนี้ 1.พระเกตุแบ่งเป็นช่วงมีร่องเว้น มีต่อมเมาลีตรงกลางปลายพระเกตุ เป็นตุ่มแหลมชนเข้าในเส้นประภามลฑลรัศมี 2 .พระเนตรข้างขวาสูงกว่าข้างซ้าย 3.ช่วงล่างของพระกร(แขน)ข้างขวาพระจะเทเอียงลาดต่ำลง และ4. มีเส้นรัศมีแสดงเป็นเส้นขีดทั้ง 2 ข้างองค์พระรอยตะไบ รอยจานจะติดให้เห็นบางๆ

พระปิดตาเนื้อผงคลุกรักพิมพ์พุ่งป่อง

พระปิดตาพิมพ์แขนชิด

นอกจากนี้ยังมีประเภทเนื้อผงคลุกรัก ได้แก่ พระปิดตา ด้านหลังเรียบ หรือ อูมเล็กน้อย มีทั้งหลังจาร - ไม่จาร และยังมีพิมพ์แจกแม่ครัวที่มีขนาดเล็กอีกด้วย นอกจากเนื้อผงคลุกรักแล้ว ยังมีเนื้อสมฤทธิ์ และเนื้อชิน อีกด้วย

พระปิดตากรมหลวงชุมพรพิมพ์ห้าเหลี่ยม

เหรียญปั๊มรูปไข่่รุ่นแรกปี 2466

ส่วนประเภทเหรียญที่ได้รับความนิยมสูงจะวงการพระจัดเป็นเหรียญมาตรฐานสากลนั้นต้องยกให้ เหรียญรุ่นแรก ปี 2466 และพระนาคปรกใบมะขาม ปี 246 นอกจากนี้ยังมีประเภทเนื้อผงคลุกรัก ได้แก่ พระปิดตา ด้านหลังเรียบ หรือ อูมเล็กน้อย มีทั้งหลังจาร - ไม่จาร และยังมีพิมพ์แจกแม่ครัว อีกด้วย นอกจากเนื้อผงคลุกรักแล้ว ยังมีเนื้อสมฤทธิ์ และเนื้อชิน อีกด้วย

ส่วนตะกรุดนั้นเป็นเครื่องรางของขลังที่อาจจะดูยากกว่าพระเครื่อง แต่ผู้คลุกคลีในแวดวงพระสามารถที่แยกแยะออกได้ว่าเป็นของเกจิอาจารย์ท่านใด ซึ่งถ้าเป็นของหลวงปู่ศุขรับรองได้ว่าศาตราวุธต่าง ๆ ไม่สามารถทำร้ายได้ เรียกว่าหนังเหนียวแบบไม่มีระคายผิว และอีกอย่างที่ยังพอมีให้เช่าอยู่บ้างคือ ประคำ

ตะกรุดสาริกาจันทร์เพ็ญ

ตะกรุดจันทร์เพ็ญหลวงปู่ศุข ขนาด 1.5นิ้ว 10 มม. ถักเชือกในแบบลายจระเข้ขบฟัน ทำจากเนื้อตะกั่วแบบเดียวกับที่ใช้หล่อพระพิมพ์เนื้อตะกั่วที่โด่งดังของท่านเช่น พิมพ์ประภามณฑลรัศมี พระปิดตา อื่นๆ ที่สร้างปาฏิหาริย์มากมาย ส่วนขั้นตอนการทำแผ่นตะกรุดของหลวงปู่ศุข ค่อนข้างยุ่งยากนับเป็นตำราที่แปลกไม่เหมือนใคร โดยขั้นแรกจะต้องเคี่ยวตะกั่วนมกับปรอท ในกระเพาะควายเผือก เป็นเวลาถึง ๗ วัน ๗ คืน ที่ใต้ถุนกุฏิของท่าน โดยท่านจะควบคุมการเคี่ยวตะกั่วด้วยตัวท่านเองเสมอ ถึงกับบางครั้งท่านลงมือเคี่ยวตะกั่วด้วยตัวเองก็มีอยู่บ่อยๆเสร็จแล้วบาง ส่วนท่านก็จะแบ่งไว้สำหรับทำพระพิมพ์ต่างๆ และบางส่วนท่านจะนำตะกั่วเหลวนั้นมาเทลงบนสมุดข่อย เมื่อตะกั่วเย็นตัวลงแล้ว ก็จะนำไปตีแผ่ออก แล้วตัดตามขนาดที่ต้องการ คือตั้งแต่ ๑ นิ้ว จนถึง ๖ นิ้ว (ที่ยาวกว่านี้ก็อาจจะมี)

จากนั้นท่านจะลงไปจารตะะกรุดที่ใต้น้ำ ซึ่งต้องตรงกับวันเพ็ญเดือน12 ของทุกๆปี ปีไหนตรงกับวันเสาร์ยิ่งดีเพราะเป็นวันแข็ง โดยจุดเทียนระเบิดน้ำลงไปจารตะกรุดในแม่น้ำหน้าวัด และ ที่หนองท่าเรือทองใกล้กับวัดท่าน เมื่อท่านจารเสร็จจะปล่อยตะกรุดให้ลอยทวนน้ำขึ้นมาเหนือน้ำและจะมีลูกศิษย์ คอยเก็บตะกรุดที่ลอยขึ้นมา หากท่านจารตะกรุดเสร็จทานจะปล่อยเหล็กจารให้ลอยขึ้นมาโดยเมื่อท่านขึ้นมาจาก น้ำก็สร้างความอัศจรรย์ยิ่งนักที่สบงจีวรท่านไม่เปียก จึงนับได้ว่า ตะกรุดหลวงปู่ศุข เป็นตำราที่ยากจะหาพระเกจิอาจารย์ท่านใดมาเสมอเหมือนได้ จึงไม่ต้องสงสัยว่า ทำไมทุกวันนี้ตะกรุดของท่านจึงมีการซื้อขายกันในราคาที่แสนแพง

นับว่าหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านเป็นเกจิอาจารย์รุ่นเก่าที่มีความเข้มขลัง ซึ่งที่ผ่านมาต่างก็ได้รับประสบการณ์กันไม่น้อย หรือแม้แต่คนรุ่นใหม่ถ้าศรัทธาจริงก็แสวงหาวัตถุมงคลมาบูชากันได้ ปิดท้ายด้วยคาถาอาราธนาพระเครื่อง และตะกรุดหลวงปู่ศุข เริ่มด้วยการตั้งนะโม ๓ จบ ว่า อิติอะระหังสุคะโต เกสโรนามะเต ประสิทธิเม อิหิอะโห นะโมพุทธายะ

ขอบคุณภาพ : เว็ปไซต์พระเครื่องทุกเว็ป

บทความใกล้เคียง

---------------------------------------

หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน
ทำเนียบพระรูปหล่อเงินล้าน..พิมพ์ขี้ตา

หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
เกจิขลังพระเวทลุ่มแม่น้ำนครชัยศรี

หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ
สุดยอดเครื่องรางของขลังขมังเวทย์

หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
เกจิอาจารย์รุ่นเก่าสุดขลัง

หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
พระอริยสงฆ์ชื่อดังแห่งเมืองกรุง